PopAds.net - The Best Popunder Adnetwork จับตายูไนเต็ด: พฤศจิกายน 2011

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เกี่ยวกับการเซ็นสัญญา

เนื่องด้วยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพิ่งได้นักเตะอายุน้อยมาใหม่อีกคนนึง ทำให้ผมหวนนึกถึงการเซ็นสัญญาที่ผ่านมาหลายๆครั้งซึ่งมันทำให้ผู้เขียนรู้สึกแตกต่างกันออกไปในแต่ละครั้ง ดังนี้.....

Manucho
มันเป็นใคร????

ช่วงที่ทีมเซ็นมานูโช่เข้ามา เป็นช่วงที่ทีมร้างการเซ็นสัญญาแบบใหญ่โตมานาน และมานูโช่ก็เป็นอีกครั้งที่ ......ไม่ใหญ่โต นั่นเป็นการใส่ฟืนใส่ไฟเข้าไปในประเด็นที่ว่าเกลเซอร์ดูดเงิน แต่ลุงแพนด้าก็ออกมาปกป้องอีกนั่นแหละ

มานูโช่เข้าสู่ทีมแบบเงียบๆ ในช่วงเดือนมกราคม ความสามารถถูกปิดเป็นความลับ เขาร่วมฝึกกับทีมชุดใหญ่อย่างลับๆ... และสุดท้ายเขาก็จากไปอย่างลับๆ -*- ไม่รู้ว่าออกไปเมื่อไร แต่ก็ถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่งงๆ อีกครั้ง กับการซื้อแบบขัดตาทัพสุดๆ

 
Berbatov
นี่แหละคำตอบ...

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทีมได้กองหน้าที่แตกต่างออกไปจากกองหน้าที่มีอยู่ คู่หูในแดนหน้าตอนนั้นคือ หมูกับหมู รูนี่กับเตเวซ และตอนนั้นยังมีโรนัลโด้ร่วมรุกด้วย ลุงแพนด้าคงเห็นว่าให้หมูวิ่งไปวิ่งมาในสนาม2ตัว คู่แข่งจับทางได้หมด จึงเรียกตัวเบิร์บที่ฟอร์มร้อนแรงกับสเปอร์ มาร่วมรุกอีกคน นั่นทำให้ทีมเกิดการแข่งขันและในที่สุด!! แมนยู ก็ยังคงใช้หมูกับหมูร่วมรุกเป็นหลักอยู่ดี -*-

การจากไปของเตเวซทำให้เบิร์บ ได้ลงเล่นมากขึ้น แต่แล้ว ลุงแพนด้าก็เลือกที่จะใช้หน้าเป้าเป็นรูนี่คนเดียวโดนมีโรนัลโด้คอยเติม บางทีใช้อิโด้เนี่ยแหละเป็นหน้าเป้า... เบิร์บเศร้า สำรองอีกหละ -*-

อีกครั้ง!! กับการจากไปของโรนัลโด้ เบิร์บ มีหวังทันที ช่วงนั้นเป็นเวลาก่อนบอลโลกเตะ ทีมได้เซ็นสัญญานักเตะชื่อเบาคนนึงเข้ามา เอามาเป็นสำรองของเรากับรูนี่เบิร์บคิดและนั่นทำให้ผมคิดถึงการเซ็นสัญญาของ....


Chicharito
ใครหง่ะ??

ตอนนั้นผู้เขียนไม่รู้จักหมอนี่จริงๆนะ แต่หลังจบบอลโลก คนส่วนใหญ่ในโลกก็ได้รู้จักเขามากขึ้นกับผลงานอันสวยหรู กับเม็กซิโก(แต่ผู้เขียนก็ยังไม่รู้จักอยู่ดีหว่ะ เนื่องด้วยมีเหตุผลบางประการทำให้อดดูบอลโลก T^T)

ใช้หน้ายิงประตู ..นั่นทำให้ผู้เขียนรู้จักชิชาริโต้ แต่ก็ยังมีข้อกังขากับชิชา เพราะ เห็นหน้าทีก็ยิงแล้ว ระหว่างเกมส์ไม่รู้ไปเล่นหมากเก็บแถวไหน

อย่างไรก็ตามทีมยังคงใช้หน้าเป้าเป็นหมูตัวเดียว หรือไม่ก็ให้โอกาสกับชิชาริโต้ พอๆกับเบิร์บอยู่ดี(เฮ้อ~ เบิร์บช่างอาภัพ)


Owen
(อดีตเด็กหงส์)

เนื่องด้วยผู้เขียนเองชื่นชอบโอเว่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้ดีใจนะที่ดีโอเว่นมาถึงแม้ว่าเรื่องสภาพร่างกายจะมีเครื่องหมายคำถามติดอยู่เต็มไปหมดก็เหอะ แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่าทีมแพทย์ของทีมต้องดูดีแล้วจริงๆ ไม่งั้นคงไม่เอามาหรอก

การย้ายทีมแบบไร้ค่าตัวครั้งนี้ทำให้เด็กหงส์หลายผู้หลายคนดิ้นกันพราดๆ บ้างก็สาปแช่งสมน้ำหน้าแมนยูที่ซื้อไป ซื้อไปรักษารึไงจ๊ะ?นั่นคือเสียงเย้ยหยัน

ขอให้ประสบความสำเร็จละกันนั่นไงเสียงให้กำลังใจก็มี

ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ลงเลย แต่ก็เป็นตัวสำรองที่ดีนะ ไม่เคยบ่นหากไม่ได้ลง พอได้ลงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก ส่วนใหญ่เราจะได้ยลโฉมฝีเท้าของโอเว่นในบอลถ้วยมากกว่า เพราะในศึกพรีเมียร์ลีค มีทั้งหมู ทั้งถั่ว เวลเบ็ค แล้วยังจะมีเบิร์บ(ผู้อาภัพ) อีก แต่ก็นั่นแหละ ช่วงนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกองหน้าล้นๆเลย ถึงแม้ว่าความสามารถจะไม่ค่อยล้นก็เหอะ...




ปล.Andreas Pereira ก็เป็นอีกคนที่ผู้เขียนไม่รู้จัก -*- ยังไงก็ตามเด็กๆอยู่ก็ดูกันยาวๆละคร๊าบบ

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ปรากฎการณ์ “เบิร์บวิ่ง”

ปรากฎการณ์  “เบิร์บวิ่ง”

เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกนี้หากได้ชมการแข่งขันคาลิ่งคัพ นัดที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดบุกไปเอาชนะอันเดอร์ชอร์ตได้ถึงบ้าน 3-0 คงจะจดจำนัดนั้นได้ขึ้นใจราวกับจำวันเกิดตัวเองได้เลยทีเดียว แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ฟอร์มการเล่นหรือการบุกไปเอาชนะนอกบ้านเลย เพียงแต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า.........เบอร์บาตอฟวิ่ง

การที่เบอร์บาตอฟขยันวิ่งนั้น เปรียบได้กับการค้นพบว่าโลกกลมโดยอริสโตเติลนักวิชาการกล่าว

ผมคิดว่านัดนั้นคือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างที่แปดแฟนบอลรายหนึ่งตะโกนแก้ผ้าวิ่งไปรอบๆเมือง

ผมว่ายูเซน โบลท์คงรู้ตัวแล้วว่าเขาเจอกระดูกชิ้นโต” – ผู้เขียนบล็อก (ฮิฮิ)

ครับ ....ผู้เขียนบล็อกจะพยายามเล่าเรื่องราวในวันนั้นให้ฟังก็แล้วกัน แต่ถ้าเป็นไปได้อย่างให้ไปหาชมกันเองอีกทีเพราะ เรื่องมหัศจรรย์แบบนั้นมันเขียนออกมายากนะจ๊ะ

คือว่าหลังจากเฮียเบิร์บร้างราสนามไปเป็นผู้ชมมาหลายต่อหลายนัด เชื่อว่าพลังงานมันคงเกินหน่ะ พอลงไปเล่นได้ไม่กี่นาทีก็ทำประตูโชว์ลุงแพนด้าซะเลย หลังจากนั้นครับ เขา...ก็เริ่มวิ่ง(เรื่องธรรมดาๆถ้าเกิดกับบางคนก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้นะตัวเธอ) บอกตรงๆว่าผู้เขียนบล็อกเห็นแล้วตาสว่างกันเลยทีเดียว ทั้งที่ก่อนนั้นง่วงเป็นบ้าเลย จบครึ่งแรกลงไปด้วยความประทับใจครับ


เอาถ้วยมา~
พอเริ่มครึ่งหลังเท่านั้นแหละ เบิร์บก็เริ่มวิ่งน้อยลงๆ ในที่สุดเขาก็ยืนนิ่งๆ(-*-) ไม่วิ่งอีกเลย ...เข้าใจว่าคงเหนื่อยนะ และนี่ก็คงเป็นเหตุผลที่เบิร์บไม่ค่อยวิ่งแต่ผู้เขียนก็เข้าใจนะ เพราะถ้าวิ่งแล้วหลังๆต้องยืนเฉยๆ ....สู้เดินทั้งเกมส์จะดีกว่า  ><

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เด็กหนุ่มไฟร้อนแรง

เขียนถึงนักเตะเกษียณกับนักเตะตัวเก๋าไปแล้ว มาครั้งนี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงผู้เล่นอายุน้อยบ้างดีกว่า...

Darron Gibson
อดีตดาวรุ่งพุ่งเบาๆอย่างกิ๊บโบ้ มีจุดเด่นคือลูกยิงไกล ที่เหลือคือ ...จุดด้อย ช่างน่าเศร้านัก
เนื่องด้วยมาจากสาธารณรัฐไอร์แลนด์เหมือนกับหัวโจกอย่างคีโน่(Roy Keane) เพียงแต่กิ๊บโบ้มาจากไอร์แลนด์เหนือ เป็นเรื่องธรรมชาติที่จะถูกเปรียบเทียบกัน ทำให้กิ๊บโบ้ต้องแบกรับชื่อเสียงหนักอึ้ง(พอๆกับอิริค สติฟเลอร์ในอมเริกันพายเลยทีเดียว) โดยส่วนตัวผมว่า มันก็ยิงสวยอยู่หรอกนะ เพียงแต่ สองสามร้อยนัดจะยิงสักที การจ่ายบอลก็ไม่เลวร้ายจ่ายเข้าเท้าคู่ต่อสู้เสมอๆ เฮ้อ.... อยากบอกกิ๊บโบ้ว่า ซํนเดอร์แลนด์สนามสวยนะ


Federico Macheda
ดาวรุ่งที่บันดาลแต้มให้กับแมนยู หลายต่อหลายนัด ในถานะตัวสำรอง รูปร่างสูงยาวเข่าดี แบบนี้แม่ยกชอบเยอะ แต่นั่นไม่เกี่ยวกับฝีเท้า เพราะกิโก้นี่เล่นเต็มเกมส์ทีไรมักจะระเบิดฟอร์มไม่ออกหว่ะ ผู้เขียนเองก็ไม่เข้าใจ ยิ่งตอนนี้พวกเด็กกองหน้าเติบโตกันเต็มไปหมด ทำให้กิโก้
เฮ้อออ อยู่ในตัวเลือกอันดับท้ายๆ เอ๊ะ รึว่าตำนานอาถรรพ์นักเตะอิตาลีกับแมนยูจะมีจริง

Johny Evan
อายุยังน้อยแท้ๆ แต่เข้าบอลโหดร้ายซะเหลือเกิน อาจไม่โฉ่งฉ่างมาก ดีกว่าสโคลส์นิดเดียว(ย้ำว่านิดเดียว) แต่ตัวนี้ห้าวจริงอะไรจริง โดยรวมผู้เขียนว่าก็มีดีพอตัวแต่ต้องหาคู่ที่เก๋าและทางบอลดีจริงๆ จะดูเข้าท่า นี่ก็เป็นอีกคนนึงที่มีหน้าตาเป็นอาวุธทำให้รอดตัวจากการต่อว่าของเด็กผี(สาวๆ)เสมอ เวลายังมีให้พอสูจน์นะตัวนี้เพียงแต่ตอนซ้อมต้องเข้าบอลที่เข่าของฟิล โจนส์ให้เจ็บซะ ตนจะได้ลงแบบไม่มีข้อกังขา หลังจากช่วงนี้โดนวิจารณ์ว่าเป็นลูกรักบ่อยจริงๆ(รึลุงแพนด้าแกชอบแบบนี้ว่ะ) ที่สำคัญคือนักเตะเหมือนจะไม่ดีพอแบบนี้พอย้ายออกไปแล้วระดับโลกทั้งนั้นเลยนะเออ เอาเป็นว่าลุงแพนด้ากับแฟนบอล ก็อดทนกับนายจอห์นหน่อยละกัน จะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลังแบบ ปิเก้นะจ๊ะ


Bebe
เอิ่มมม นักเตะรายนี้ หน่วยก้านดีนะ ต่อยกับ ดร็อกบา ท่าจะมัน... ไม่ใช่สิ เบเบ้ มีความเร็ว แข็งแกร่ง(ดูดีมั้ยหล่ะ) ในรุ่นๆเดียวกันแล้วหมอนี่จะดูโดดเด่นในเรื่องความเร็ว 
แต่เรื่องอื่นๆ
เฮ้อออ อีกสักที หลังๆนี้ข่าวคราวเงียบหายไปบ้างแต่ถ้าฝึกงานกลับมาแล้วอาจดูดีขึ้นบ้าง แต่แมนยูเป็นทีมประเภทพึ่งพาปีกเยอะหว่ะ โอกาสเกิดจริงจังคงยากอ่ะนะ



ทั้งสี่หน่อนี้ เป็นนักเตะที่ยังอายุน้อยและแววรุ่งเริ่มหดหายแล้ว ยังไงก็สู้ต่อไปนะจ๊ะ ผู้เขียนเชื่อว่าแฟนผีทั้งโลกเองก็เป็นกำลังใจให้ แต่ถ้าแววมันหมดจริงๆก็ตัวใครตัวมัน ><

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Baby goal Michael Owen

ต่อไปนี้จะเล่าถึง นักฟุตบอลที่มีเอกลักษณ์คือเป็นพวกจมูกไว 
(เหมือนช้าง ไม่ใช่หมา >< )

เบบี้ โกลล์ ชื่อนี้ไม่ได้จับฉลากมาได้นะจ๊ะ....

ไมเคิ่ล โอเว่น โด่งดังอย่างรวดเร็วโดยทำสถิติเป็นนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติอังกฤษเร็วที่สุด(ตอนหลังโดนลบสถิตินี้โดยโจ โคล และวัลคอตต์ ตามลำดับ) โด่งดังขึ้นกับทีมฟุตบอลระดับตำนาน!(ตอนนั้นลิเวอร์พูลยังเป็นทีมที่คว้าแชมป์ลีคได้สูงที่สุด 18 สมัย) ในตำแหน่งกองหน้า ช่วงนั้นต้องยอมรับว่า โอเว่นและเฮสกี้ เล่นเข้าแข้ง เข้าขากันเหลือเกินราวกับเป็นแฝดออกจากท้องโคตรพ่อโคตรแม่มาด้วยกัน(หากท่านเพียงได้ชายตามองหน้าทั้งคู่แล้วจะพบว่า..มันไม่จริง!) ร่วมกันยิงกระจาย ได้รับรางวัลดาวซัลโวสูงสุด รวมทั้งโอเว่นยังได้รับรางวัลบัลลงดอร์อีกด้วย ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแต่แล้วเฮียหนวดก็เข้ามาพร้อมกับอุดมการณ์ที่ว่า อะฮั้นนิยมหนุ่มๆสเปนฮะ แรงหยั่งกะวัวกระทิง ฮั้นไม่นิยมหนุ่มอังกฤษหรอกฮะ นุ่มนวล ยี้…” นั่นเป็นเหตุผลที่ โอเว่นจำต้องลาจากจร จากฟาร์มม้าที่รัก สู่การสวมชุดเป็นอัศวินสีขาว


ไมเคิ่ล โอเว่น ไม่เคยขาดสัญชาตญาณ หน้ากรอบเขตโทษเขายังเป็นที่หลอนประสาทกองหลังได้เสมอๆ แต่ข้อเสียอย่างรุนแรงคือ เปราะบาง (แค่ลมเพียงแผ่วเบา ยังทำให้ปวดร้าว) ไสตล์ว่ายิงเป็นเข้า เสียบเป็นเจ็บ

แต่อาการเปราะนี้มีที่มาสืบเนื่องจากตอนเล่นทีมชาติอังกฤษรับ ช่วงรุ่งๆนี่แหละ ยิ่งนิ่งๆกำลังจะจ่ายบอลแล้ว ข้อเท้าเจ้ากรรมดันเดปัญหา(ยืนเฉยๆจริงๆนะเออ) เบบี้โกล ก็เริ่มเปราะตั้งแต่นั้น

ล้มเหลว... คือนิยามของการเป็นอัศวินโง่ๆที่ต้องนั่งดูเพื่อนรบข้างๆสนาม หมดสัญญาโอเว่นก็กลับมาเลี้ยงมาต่อที่โรงหยาบาลของนิวคาสเซิ่ล แต่ตลอดช่วงเวลาอันเลวร้ายโอเว่นก็ยังมีประตูเฉลี่ย 2นัด/1ประตู หมดสัญญา!(อีกแล้ว) โอเว่นก็เคว้งคว้างได้ไม่นานเขาก็ก้าวไปสู่.... โรงพยาบาลของแมนยู -*- (ไปตรวจร่างกาย)

โอเว่นเข้ามาสู่ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญจากเหล่า เดอะ คอป (ไหนบอกจะไม่มีวันเดินเดียวดายไงฟร่ะ แม่ง แช่งชักหักกระดูกอดีตขวัญใจกันใหญ่)

โอเว่นมาแมนยู แล้วก็คว้าแชมป์ได้ทันทีครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นตัวหลักแต่ก็มีส่วนสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประตูที่ตรึงใจผมที่สุดคือประตูที่ระเบิดคว้าชัยเหนือ แมนซิตี้ได้ ในนาทีที่ 96 (ไม่พ้นโดนคำสรรเสริญจาก เดอะ คอป อีกนั่นแหละ -*-)